สมเด็จพระปิลันทน์ พิมพ์ปรกโพธิ์เล็ก ฐานสองชั้น

with 0 ความคิดเห็น
พระปิลันทน์องค์นี้มีอายุกว่าร้อยปีแล้ว อาจจะมีรอยรานและมีกระเทาะบ้าง แต่เต็มเปี่ยมด้วยพุทธคุณ และหายาก 
รูปภาพ พระสมเด็จปิลันทน์



ประวัติของพระปิลันทน์
พระสมเด็จปิลันทน์ เป็นพระเนื้อผงผสมใบลานเผา สร้างขึ้นในช่วงปี ๒๔๐๗ ถึง ๒๔๑๑ โดย หม่อมเจ้าพระพุทธบาทปิลันทน์ (ทัด) ลูกศิษย์ใกล้ชิดในท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) วัดระฆังโฆสิตาราม ผู้สร้างพระสมเด็จอันเป็นสุดยอดพระเครื่องแห่งเมืองไทย และนับได้ว่าเป็นพระภิกษุเพียงรูปเดียวที่ได้รับความไว้วางใจให้ปกครองดูแลวัดแทน และสืบต่อมาท่านได้จำเริญในสมณศักดิ์ จนครั้งสุดท้ายดำรงสมณศักดิ์เป็นที่ "หม่อมเจ้าพระสมเด็จพระพุฒาจารย์ (ทัด)" เทียบเท่ากับพระอาจารย์
ครั้งเมื่อหม่อมเจ้าพระพุทธบาทปิลันทน์ (ทัด) ครองวัดระฆังฯ ในราวปี พ.ศ.๒๔๐๗ ท่านได้ดำริสร้างพระพิมพ์ให้ครบ ๘๔,๐๐๐ องค์ตามจำนวนพระธรรมขันธ์ตามคติโบราณนิยม ส่วนหนึ่งเพื่อแจกผู้มีจิตศรัทธาเลื่อมใสไว้เป็นเครื่องคุ้มครองป้องกันภยันตราย อีกส่วนหนึ่งเพื่อบรรจุไว้ในพระสถูปเจดีย์เพื่อเป็นพุทธบูชาและสืบสานพระบวรพุทธศาสนา ด้วยการสร้างพระพิมพ์เนื้อผงใบลานเผาขึ้นเป็นจำนวนมาก แบบและพิมพ์มีความประณีตงดงามด้วยฝีมือช่างหลวงหรือช่างสิบหมู่ ทั้งยังได้รับความอนุเคราะห์จากพระอาจารย์ คือท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) มอบมวลสารพระสมเด็จวัดระฆังฯ รวมทั้ง "ผงปถมัง" ให้เป็นส่วนผสมในพระพิมพ์ ซึ่งคือส่วนที่ปรากฏเป็นผงสีขาวในองค์พระ นอกจากนี้ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ยังร่วมในการอธิษฐานจิตปลุกเสกด้วยพระคาถาชินบัญชร อันทรงคุณวิเศษอีกด้วย จึงเรียกขาน “พระพุทธบาทปิลันทน์” กันในอีกนามหนึ่งว่า “พระเครื่องสองสมเด็จ”สำหรับด้านพุทธคุณที่ประจักษ์แก่สายตาส่วนใหญ่จะเป็นด้านเมตตามหานิยมและคงกระพันชาตรี
การขุดพบพระพุทธบาทปิลันทน์ ที่วัดระฆังฯ นั้น พระเทพญาณเวที (ลมูล สุตาคโม ป.ธ.6) อดีตเจ้าอาวาสวัดระฆังฯ ได้เรียบเรียงไว้ในหนังสือ “พระสมเด็จ ๓ องค์” ฉบับพิมพ์ พ.ศ.2515 ขอสำเนามาเสนอดังนี้..
พระปิลันทน์นั้น เป็นพระของเจ้าพระคุณหม่อมเจ้าพระสมเด็จพุฒาจารย์ (ทัด เสนีวงศ์) ผู้เป็นต้นคิดสร้างขึ้น เป็นพระผงใบลานเนื้อหยาบ ดำสนิทด้านๆ ไม่ดำเป็นมัน มีขี้กรุติดมากบ้างน้อยบ้าง เป็นพระไม่งาม สัณฐานเล็ก ความยาวประมาณ ๑ องคุลี ความกว้างประมาณครึ่งองคุลี ได้เคยเอาเศษหักมาตำผสมกับผงใหม่ มีกลิ่นฉุนๆ เหมือนพริกไท ส่วนประกอบที่องค์พระอันเป็นที่สังเกต เป็นพระนั่งมีปรกก็มี ไม่มีก็มี เป็นพระยืนมีซุ้มเรือนแก้วก็มี เป็นแบบพระประจำวันก็มี ดังนี้…”

พระพุทธบาทปิลันทน์ แตกกรุออกมาเนื่อจากมีผู้เข้าไปเจาะกรุพระเจดีย์เพื่อหวังทรัพย์สินของมีค่าเท่านั้น ไม่ประสงค์ในพระเครื่อง ท่านเจ้าคุณพระธรรมทานาจารย์ (แนบ สิงหเสนี) ซึ่งอยู่ที่หอไตรฯ ในสระ ท่านเป็นเจ้าคณะและควบคุมดูแลในพระอุโบสถในขณะนั้น เมื่อทราบเรื่องจึงให้นำพระเครื่องทั้งหมดมาเก็บไว้ในหอไตรฯ จนเมื่อเกิดสงครามอินโดจีนท่านจึงนำพระเครื่องส่วนหนึ่งมอบให้แก่กระทรวงกลาโหมตามที่ทางการร้องขอมา เพื่อแจกจ่ายแก่ทหารที่จะออกไปปฏิบัติราชการในสนามรบอีกด้วย

เนื้อของพระปิลันท์เท่าที่พบมีทั้งผงสีขาว สีขาวอมเหลือง แต่มีจำนวนน้อย ส่วนใหญ่ที่พบเห็นจะเป็นเนื้อผงสีเทาอมเขียวแบบหินชนวนหรือเทาเข้มจนเกือบดำแบบสีของผงใบลานเผา 
พระสมเด็จปิลันทน์มีทั้งลงกรุและไม่ได้ลงกรุ ที่พบเห็นจะเป็นพระที่ลงกรุเสียเป็นส่วนใหญ่ พระที่ลงกรุจะมีคราบไข เรียกว่าคราบกรุ เกาะติดแน่นอยู่บนผิวพระมากบ้างน้อยบ้างแทบทุกองค์ ส่วนพิมพ์ทรงนั้นมีหลายแบบหลายพิมพ์ และหลายขนาดแตกต่างกัน จึงไม่สามารถหาข้อยุติได้ว่ามีกี่แบบ กี่พิมพ์ อย่างไรก็ตามพิมพ์ที่วงการยอมรับได้แก่ พิมพ์ใหญ่ฐานสี่ชั้น ปรกโพธิ์ใหญ่ฐานสี่ชั้น พิมพ์ปรกโพธิ์เล็ก ปรกโพธิ์เล็กซุ้มครอบแก้วฐานสามชั้น ปรกโพธิ์เล็กซุ้มครอบแก้วฐานสองชั้น พิมพ์ซุ้มประตู พิมพ์ครอบแก้วใหญ่ พิมพ์ครอบแก้วเล็ก พิมพ์เปลวเพลิงใหญ่ พิมพ์เปลวเพลิงกลาง พิมพ์เปลวเพลิงเล็ก พิมพ์พระโมคคัลลาน์-พระสารีบุตร พิมพ์ปฐมเทศนา พิมพ์สี่เหลี่ยมซุ้มสามเส้น พิมพ์สี่เหลี่ยมมารวิชัย พิมพ์สี่เหลี่ยมสมาธิ พิมพ์เล็บมือ พิมพ์ปิดตา และพิมพ์หยดแป้ง

ที่มา : หนังสือของดีวัดระฆัง

สถานะ : ยังอยู่
ราคา : โทรถาม
เบอร์โทรศัพท์ : 0812580180
Facebook : AJ Mai
Line ID : NTpra

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น